ปลูกลงแปลงปลูก: หยอดเมล็ดลงในแปลงเพาะในบริเวณที่เหมาะสม (โดยคำนึงถึงปริมาณแสงแดดด้วย) โดยไม่ต้องกลบ หรือกลบให้บางที่สุดไม่ควรเกิน 1-2 มิลลิเมตร หรือใช้นิ้วกดลงไปที่เมล็ดเบาๆโดยให้เมล็ดจมอยู่ในวัสดุปลูก พรมน้ำให้ชุ่มและรักษาความชื้นจนกว่าเมล็ดจะงอก หมั่นถอนวัชพืช รดน้ำ ใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาการปลูก
ปลูกลงกระถางปลูก: เตรียมวัสดุปลูกที่ระบายน้ำได้ดีเยี่ยมลงในกระถางขนาด 8 นิ้วขึ้นไป โรยพีทมอสด้านบนวัสดุปลูกหนาประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นหยอดเมล็ดลงในกระถางปลูกให้ทั่วบริเวณโดยไม่ต้องกลบ หรือกลบด้วยพีทมอสให้บางที่สุดไม่ควรเกิน 1-2 มิลลิเมตร หรือใช้นิ้วกดลงไปที่เมล็ดเบาๆโดยให้เมล็ดจมอยู่ในพีทมอส พรมน้ำให้ชุ่มวางในที่ที่มีแสงสว่างและรักษาความชื้นจนกว่าเมล็ดจะงอก (อาจใช้ฟิลม์ถนอมอาหารคลุมด้านบนกระถางเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมแบบปิด ซึ่งจะทำให้เมล็ดงอกได้ดีขึ้น) เมื่อต้นกล้ามีความพร้อมหรือสูงประมาณ 2 นิ้ว ให้วางต้นกล้าไว้บริเวณที่มีแสงแดดรำไร เพื่อให้ต้นกล้าคุ้นชินกับแสงแดดก่อนทำการย้ายกระถางปลูกไปยังบริเวณที่โดนแดดเต็มวัน
ทิป: สำหรับสภาพอากาศในประเทศไทย ควรปลูกในกระถางเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย และเพื่อให้ง่ายต่อการดูแล เราแนะนำให้เพาะเมล็ดลงในกระถางปลูกโดยตรง เนื่องจากเมล็ดพันธุ์งอกง่าย อาจใช้ทรายแห้งผสมกับเมล็ดพันธุ์เพื่อช่วยให้การเพาะเมล็ดออริกาโน่ง่ายขึ้น หลังจากที่ต้นกล้าเริ่มแข็งแรงหรือมีความสูง 2 นิ้ว ควรนำต้นกล้าออกปลูกภายนอกในสถานที่ที่มีแสงแดดส่องถึง อากาศถ่ายเทได้สะดวก โดยใช้กระถางที่ระบายน้ำได้เร็ว วัสดุปลูกที่มีความร่วนซุยสูงและระบายน้ำได้ดี สามารถปลูกลงดินได้เช่นกัน แต่สภาพพื้นดินบริเวณรอบๆต้องระบายน้ำได้ดีเยี่ยมและไม่เป็นแอ่งน้ำขัง สามารถทนความร้อนได้ดี และไม่ต้องการการดูแลรักษามาก
เก็บเกี่ยวและใช้งาน: ในปีแรกควรเก็บเกี่ยวใบแต่น้อยเพื่อให้ต้นเจริญเติบโตได้เต็มที่ ซึ่งจะให้ผลผลิตมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ปีที่สอง ควรตัดก้านดอกทิ้งเพื่อให้แร่ธาตุไปเลี้ยงใบได้อย่างเต็มที่ นิยมนำมาประกอบอาหารในเมนู สเต็ก, พิซซ่า, และผักต่างๆ อีกทั้งยังมี วิตามิน, โปรตีน, และสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย
ยังไม่มีบทวิจารณ์